การรักษาสิวที่หมอไลฟ์บ่อยๆก็คือหมออยากให้คนไข้ เข้าใจแล้วก็ทราบถึงความคาดหวังในการรักษาสิวในคลินิกของเราในเมื่อเราเดินเข้ามาในดีว่าดีคลินิกเราก็ต้องทราบก่อนว่าการรักษาสิวของเราเนี่ยเป็นทางเลือกพยายามจะรักษาให้ดีที่สุดแต่ส่วนใหญ่แล้วหมอจะตรวจได้ก่อนว่าเคสนี้ควรจะรักษากับหมอหรือเปล่าฉะนั้นจะไม่มีคำว่าเลี้ยงไข้ การรักษาสิวที่ดีว่าในคลินิกของเราจะไม่ใช่แค่การกดสิวและฉีดสิวมันคือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุถ้าเราทำแบบนี้ยังไงสิวก็ไม่หายเพราะว่าไม่ได้ไปทำปฏิกิริยากับต่อมไขมันเราเลยยังไงสิวก็จะกลับมา เราก็จะต้องมากดทิ้งอยู่เรื่อยๆ ความผิดปกติอยู่ที่ต่อมไขมันฉะนั้นกดทิ้งปุ๊บเราจะวางเลเซอร์สิวของเราลงไปปล่อยพลังงานความร้อนเป็นขึ้นวิทยุพลังงานมันจะออกเป็น.. ไม่ได้ออกเป็นวงกว้างมันก็จะทำลายต่อมและต่อมนี้ก็จะฝ่อลงเรื่อยๆ ฉะนั้นแต่ละคนจำนวนครั้งจะไม่เหมือนกันเพราะเราไม่ได้มองเห็นด้วยตาเปล่าว่าตอนนี้มันใหญ่โตแค่ไหนฉะนั้นหมอจึงกำหนดไม่ได้ว่าจะต้องกี่ครั้ง เพราะหมอก็ไม่ได้มองเห็นต่อมไขมันด้วยตาเปล่าว่ามันจะใหญ่แค่ไหนจึงฟังธงแบบเป๊ะๆ ไม่ได้ ฉะนั้นคนที่เป็นสิวเกินหนึ่งปีกินยาทายาแล้วก็ไม่ดีขึ้นดูแลเต็มที่ตัวเองแล้วไม่ดีขึ้นสามปัจจัยนี้หรือส่องกระจกดูว่าเรามีทั้งสิวเก่าสิวใหม่ปนกันสี่ปัจจัยนี้เราควรจะลงเป็นบุฟเฟ่ควรจะรักษาสิวขั้นต่ำสามเดือนขึ้นไป หรือสิวจากโรคประจำตัวเช่นเป็นถุงน้ำในรังไข่ถ้าคุณรักษาถุงน้ำในรังไข่กับแพทย์ประจำอยู่แล้วแพทย์แล้วจะมารักษาสิวกับหมอถุงน้ำในรังไข่นี่ก็ถือว่าเรื้อรังก็มีสาเหตุที่กระตุ้นชัดเจนจะต้องประมาณสามเดือนทำอาทิตย์ละครั้งก็คือ 12 ครั้ง เครื่องเลเซอร์สลายสิว หมอจะปรับมาให้พนักงานเป็นคนทำฉะนั้นราคาจะเบากว่า แต่การฉีดสิวยังเป็นหมอฉีดอยู่พนักงานของหมอเค้าจะได้รับการเทรนการกดสิวมาอยู่แล้วฉะนั้นถ้าเค้ากดสิวเป็นเขาก็แค่วางเครื่องลงไปแล้วก็เหยียบปล่อยพลังงาน พลังงานทุกคนจะใช้เท่ากันจะไม่มีการปรับเครื่องอะไรใดๆ ทั้งสิ้นง่ายมากแล้วก็ยืนยันว่าอาจารย์นิวัฒน์บอกว่าเครื่องนี้อยู่ที่พลังงานที่พนักงานทำได้ เคสสิวทุกเคสจะได้การประเมินจากหมอทุกเคส การทำเลเซอร์สลายสิวทุกเคสมันจะต้องดีขึ้น 20% ทุกอาทิตย์ถ้าเคสไหน มันไม่ดีขึ้นมันแย่ลงทีนี้ก็ต้องมาหาสาเหตุเช่นระหว่างรักสาอยู่คนไข้รสนมวัวหรือยังคนไข้ยังกินของหวานอยู่ไหม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ระดับน้ำตาลมันเพิ่มขึ้นมันจะกระตุ้นการอักเสบ ที่ดีวันนี้คลินิกเราใช้เลเซอร์ทั้งทำงานโดยตรงกับต่อมไขมันแล้วเนี่ยความจำเป็นในการกินยาก็ไม่มีสำหรับหมอนะ ที่หมอไม่จ่ายยาเพราะว่าหมอกังวลเรื่องตับของคนไข้และเราก็ไม่ได้เจาะผิวหนังโดยตรงสองคือเราเลือกวิธีที่มันไปทำงานที่ต่อมโดยตรงแต่การจะทายาร่วมก็ไม่มีข้อห้ามเช่นในท้องตลาดก็จะมีวิตามินเอสังเกตว่ามันจะมี หลายเปอร์เซ็น ควรจะทาที่เปอร์เซ็นน้อยสุด ที่เบาสุดก็คือคนไข้ควรจะเริ่มต้นทาวิตามินเอทำหน้าที่ทาให้ผิวมันพลัดเซลล์ ไม่อุดตันแล้วก็ลดการอักเสบของต่อมไขมันด้วยถ้าในชีวิตนี้สำหรับคนไข้ที่ลงคอร์สหรือไม่ลงคอร์สก็ตาสมมุติว่าเป็นสิวน้อยๆแล้วอยากจะทาวิตามินเอเพื่อลดการอักเสบของสิวควรจะเริ่มต้นด้วย 0.025 เป็นเปอร์เซ็นต์ที่เบาที่สุดที่เจอในท้องตลาด แล้วก็เริ่มต้นด้วยการทาวันเว้นวันก่อนเพื่อดูสภาพผิวเพราะวิตามินเอมันก็เป็นกรดมันมีการผลัดเซลล์มันจะไวต่อแสงถ้าคิดว่าจะเริ่มการทานวิตามินเอไม่ว่าจะเรื่องสิวเรื่องริ้วรอยให้เริ่มจากเปอร์เซ็นต์ที่น้อยแล้วก็ทาวันเว้นวันแล้วก็ทาครีมกันแดด เราลองทานสักเดือนนึงขยับจากวันเว้นวันมาทุกวันซักสามเดือนแล้วถ้า 0.025 ทุกเดือนถ้าผิวเราโอเคไม่แดงเซนซิทีฟแต่จริงๆหมอไม่แนะนำไม่จำเป็นจะต้องสเตทอัพก็ได้เราก็ทา 0.025 ไปเรื่อยเรื่อยแต่บางคนก็อยากจะเพิ่มเปอร์เซ็นต์ขึ้นมาเป็น 0.05 1 เดือนไปแล้วนะทุกวันสามเดือน หรือจะมีอีกเปอร์เซ็นต์หนึ่งก็คือ 0.1 ซึ่งหมอว่ามันแรงไปส่วนตัวหมอทาแค่ 0.025 จะทาแค่ตรงเป็นฝ้าเพราะอยากให้เกิดการผลัดเซลล์และไม่ได้ทาทุกวัน การผลัดเซลล์เนี่ยคือเราเปลี่ยนเซลล์บ่อยๆ ร่างกายเราจะสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาเราจะได้คอลลาเจนใหม่ๆ ขึ้นมานี่คือเหตุผลว่าทำไมทาวิตามินเอแล้วรูขุมขนกระชับลริ้วรอยน้อยลงช่วงแรกแต่ช่วงแรกอาจจะมีการเห่ออาการแสบและเป็นขุยหมอถึงบอกว่าอย่าไปเริ่มต้นด้วยเปอร์เซ็นต์แรงจะดีที่สุด

​

#เลเซอร์สลายสิว #สิว #ลดต้นตอของสิว #สิวเรื้อรัง