เมโสผม
ปัญหาของผมจะมีอยู่ 2ประเภท คือ
1.ผมที่หายไปหมดช่วงกลางหัว
2.ผมที่เริ่มบางจนเห็นหนังหัว
ถ้ารู้สึกว่าผมเริ่มร่วงเริ่มบาง ให้รีบรักษา ซึ่งระยะของผมมี 4 ระคือ
1.Anagen ช่วงผมกำลังเกิด
2.Catagen ช่วงผมงอกออกมา
3.Telogen ช่วงเซลล์ผมกำลังเสื่อมและหลุดร่วง
4.New Anagen ช่วงวนกลับมาจุดที่ผมเริ่มงอกใหม่
ดั่งรูปด้านล่าง
ซึ่งผมแต่ละคนมีอายุการหลุดร่วงที่ไม่เท่ากัน
สาเหตของผมร่วงเกิดได้จาก
-ตากแดดโดนรังสีUVมากจะทำให้ผมไม่แข็งแรงจะทำลายเซลล์ผมได้
-ความเครียด
-การอักเสบ
-โรคประจำตัว
-ฮอร์โมนผิดปกติ
แต่ผมร่วงส่วนใหญ่ที่เราเจอจะเป็นจากกรรมพันธุ์ ฮอร์โมน
ซึ่งการรักษาผมร่วงผมบางแล้วต้องใช้ยากิน ให้คิดไว้เลยว่าการรักษาผมก็เหมือนกับเราปลูกต้นไม้ เราต้องรักษาไปโดยตลอด
ดังนั้นในโลกนี้ไม่มียากินหรือทาที่รักษาเรื่องผมกับเรา แล้วจะอยู่ได้ตลอดชีวิต ซึ่งผมเรามีวงจรการทำงาน เราต้องทำยังไงก็ได้ให้ผมเราแข็งแรง ให้อยู่ยาวนาน
ยากินในผู้หญิงจะเป็นตัวยา Minoxidil ซึ่งการกินยานี้ มีผลข้างเคียง
ยากินในผู้ชาย จะกินได้ทั้ง Minoxidil และ Finasteride
Minoxidil จะมีแบบหยดหรือสเปรย์ฉีดอีกด้วย ใช้ได้ทั้งชายหญิง
ข้อเสียใน Minoxidil คือ ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิงกิน ขนจะขึ้นทั้งร่างกาย จะไม่ขึ้นแค่ผม ขนแขน ขนขาจะดกตามไปด้วย จึงทำให้คนไข้ไม่ค่อยอยากกินยา อีกวิธีนึงคือ
PRP เป็นการน้ำเลือดเราไปปั่นแล้วเอาเกร็ดเลือดมาฉีดเข้าไปบนผม
ทางคลีนิกจึงหาวิธีการรักษาผมเข้ามาคือ "เมโสผม" ซึ่งเมโสผมจะหลักการคล้ายกับ PRP แต่เราไม่ต้องดึงเลือดให้เจ็บตัว
และรูปด้านล่างคือเมโสผม
ซึ่งจะฉีดครั้งละ1ขวด 10cc เป็นบริษัทเดียวกับเมโสสิวและเมโสฝ้า ที่คลีนิกใช้อยู่ ซึ่งส่วนประกอบหลักคือBiotin
วิธีทำ หมอก็จะมีการตรวจก่อนว่าผมเรานั้นมีโอกาสที่จะขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน จะไม่ทำในคนไข้ที่ไม่มีลูกผมหรือไรผมเลย
ในการฉีดนั้นจะแปะยาชาหรือประคบน้ำแข็งก็ได้ ฉีดอาทิตย์ละ 1ขวด 6 ครั้ง
เรื่องผมจะใช้เวลาในการเห็นผลประมาน 4-6เดือน แต่เนื่องจากการดูแลผลจะต้องดูแลตลอด จึงอยากให้คนไข้เป็นคนตัดสินใจในการรักษาเอง
#เมโส #เมโสผม #ผมบาง #ผมร่วง #หัวล้าน #รักษาผม




